จับตานักเตะชุดสอง
โอกาสของนักเตะชุดสองของลิเวอร์พูลยิ่งยากขึ้นไปอีกเมื่อ
ตีอาโก้ อัลกันตาร่า กับ ดีโอโก้ โชต้า เดินเข้าสู่สโมสร
ด้วยคลาสของตีอาโก้และค่าตัว 41+4 ล้านปอนด์ของโชต้า ทั้งคู่คงไม่ได้มาเพื่อเป็นตัวสำรองอดทนแน่ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อเบียดเข้าสู่ตำแหน่งตัวจริงด้วย
เพราะตัวจริงของลิเวอร์พูลยังคงแข็งแกร่งในระดับที่ไม่ยอมหลุดพื้นที่ง่ายๆ ทีมหงส์แดงไม่ได้มีจุดอ่อนอะไรในตำแหน่งนั้นถึงขนาดที่ว่ากองกลางทีมชาติสเปนกับโปรตุเกสเข้ามาแล้วเสียบเข้าไปเป็นตัวจริงทันที
แตกต่างจากการเข้ามาของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ อลีสซง เบ็คเกอร์ ตอนนั้นตำแหน่งเซนเตอร์แบ๊กกับผู้รักษาประตูคือจุดอ่อน เป็นรูรั่ว เป็นช่องโหว่ที่ต้องอุด ทั้งสองคนเข้ามาด้วยค่าตัวสถิติโลกและเป็นตัวจริงเลย
ตีอาโก้ กับ โชต้า เป็นการย้ายทีมเข้ามาในอีกลักษณะหนึ่งคือไม่ใช่การอุดจุดอ่อนแต่เป็นการเสริมจุดแข็งที่มีอยู่ให้ดีขึ้นไปอีก ลิเวอร์พูลเวลานี้ไม่มีจุดอ่อนที่เห็นชัดเจนอีกแล้ว ทุกขุมกำลังพร้อมสู้ได้ทุกทีมถ้าว่ากันเฉพาะตัวจริงล้วนๆ
แต่ขุมกำลังเชิงลึกหรือคุณภาพตลอดทีมตั้งแต่ตัวจริงไปถึงตัวสำรองนั้นเป็นอีกเรื่อง
สองฤดูกาลแล้วที่ตัวสำรองของลิเวอร์พูลไม่สามารถทดแทนหรือแบ่งเบาภาระให้ทีมชุดใหญ่ได้เลย เจมส์ มิลเนอร์ได้แค่ประคองตัวจากวัยที่มากขึ้น อดัม ลัลลาน่ามีปัญหาบาดเจ็บ เซอร์ดาน ชากิรี่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนทั้งเจ็บและยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งได้ นาบี เกอิต้าเจ็บด้วยและยังเค้นผลงานไม่ได้ด้วย ดิว็อค โอริกี้สามวันดีสี่วันไข้ เดยัน ลอฟเรนไม่มีความแน่นอน
เจอร์เก้น คล็อปป์ จึงต้องมองหากำลังเสริมที่แข็งแกร่งขึ้น มันเป็นที่มาของการดึง เนโก้ วิลเลียมส์ ขึ้นมาจากทีมเยาวชน และการซื้อ คอสตาส ซิมิกาส แบ๊กซ้ายทีมชาติกรีซจากโอลิมเปียกอส
ท่ามกลางความกังวลของแฟนบอลลิเวอร์พูลที่ยังไม่มั่นใจในขุมกำลังแนวลึก ด้วยความที่เห็นคู่ต่อสู้อย่างเชลซีทุ่มเงินกว้านซื้อนักเตะดังๆ เข้าทีมมโหฬาร ด้วยความที่เห็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังคงแข็งแกร่งทั้งตัวหลักและตัวเสริมแถมยังซื้อนักเตะใหม่เข้ามาอีก ในที่สุดลิเวอร์พูลก็ซื้อนักเตะมาเสริมขนาดของทีมจริงๆ
การเข้ามาของตีอาโก้และโชต้าบอกอะไรกับเราได้อีกบ้างนอกจากขนาดทีมที่จะใหญ่ขึ้น
มันบอกกับเราว่าโอกาสของทีมชุดสองที่เคยได้รับจากคล็อปป์นั้นย่อมลดน้อยลงไป ทั้งโอริกี้และชากิรี่ในตำแหน่งกองหน้าสามคน ทั้งอ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เกอิต้า มิลเนอร์ และ เคอร์ติส โจนส์ ที่เพิ่งถูกดึงขึ้นมาจากทีมเยาวชนในตำแหน่งสามกองกลาง
เพราะด้วยดีกรีติดตัว ถ้าตีอาโก้กับโชต้าจะต้องเป็นตัวสำรอง ทั้งคู่ก็คงเป็นตัวสำรองอันดับหนึ่งในตำแหน่งนั้นๆ คือเป็นตัวเลือกที่ถัดลงไปจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ฟาบินโญ่ และ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ในตำแหน่งกองกลาง และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในตำแหน่งกองหน้า
เพราะฉะนั้นคนที่เดิมเคยเป็นตัวสำรองอันดับหนึ่งก็จะถอยไปเป็นอันดับสอง คนที่เป็นตัวสำรองอันดับสองก็จะร่นไปเป็นอันดับสาม ขยับต่อๆ กันไปอย่างนั้น
ถามว่าคล็อปป์หมดความอดทนกับทีมชุดสองของเขาหรือ พูดอย่างนั้นก็ดูใจร้ายเกินไปหน่อย เขาให้โอกาสลูกทีมของเขาเสมอ เพียงแต่มันถึงเวลาที่ต้องมีการขยับขยายเติมความสดชื่นใหม่ๆ บ้าง และนั่นย่อมทำให้ความมั่นคงที่มีอยู่เดิมเริ่มสั่นคลอนสำหรับบางคน
ถึงตอนนี้ตลาดซื้อขายนักเตะยังไม่ปิด เราอาจจะได้เห็นดีลใดๆ เกิดขึ้นอีกก็ได้ไม่ว่าจะเป็นขาเข้าหรือขาออก เพราะเอาเข้าจริงคนที่อยู่ในข่ายขาออกหลายคนก็ยังไม่ได้ย้ายไปไหน มาร์โก กรูยิช แฮร์รี่ วิลสัน ลอริส คาริอุส รวมทั้งตัวสำรองในทีมชุดใหญ่บางคนอย่าง โอริกี้หรือชากิรี่
ฝุ่นยังตลบอยู่ มันยังลอยละล่องฟุ้งอยู่ในอากาศ ยังไม่ตกตะกอนเห็นแดดสดใส แม้กระทั่งไวจ์นัลดุมที่ดูจะเงียบๆ ไปแล้วสำหรับข่าวย้ายทีมก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไป มิดฟิลด์ดัตช์อาจกลายเป็นอดีตได้ทุกเมื่อด้วยสถานการณ์ยังสามารถพลิกผันได้อีก
สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือความเข้มข้นของการแย่งตำแหน่งในทีม เราน่าจะได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองจากตัวสำรองและตัวจริงที่มีอยู่เดิมยิ่งขึ้น และตัวสำรองคนไหนที่ยังคว้าโอกาสของตัวเองไม่ได้อีกในฤดูกาลนี้พูดได้เลยว่ามีความเป็นที่่ไปได้ไม่น้อยที่จะต้องแยกทางกันจริงๆ ด้วยเป็นวิถีของฟุตบอล
แฟนบอลลิเวอร์พูลเอาใจช่วยนักเตะของพวกเขาเสมอ ยิ่งโดยเฉพาะตัวสำรองทั้งหลายก็ยิ่งเอาใจช่วยเพราะทำให้เกิดการแข่งขันภายในทีมและเป็นการแบ่งเบาภาระของเหล่าตัวหลักที่ต้องลงเล่นฤดูกาลละ 50-60 นัด
ฤดูกาลนี้แม้จะได้ตีอาโก้กับโชต้าเข้ามาซึ่งก่อนให้เกิดกระแสของความตื่นเต้นแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เชื่อว่าเดอะค็อปก็คงไม่หลุดโฟกัสไปจากนักเตะชุดสำรองที่มีอยู่เช่นกัน พวกเขายังเอาใจช่วยอยู่เหมือนเดิม
เป็นกำลังใจให้เหล่านักเตะตัวสำรองชุดเดิมทุกคน สถานการณ์ของพวกคุณยิ่งเหนื่อยขึ้นไปอีกจากการเข้ามาของสมาชิกใหม่ 2 คนล่าสุดนี้ แต่ลิเวอร์พูลคือแชมเปี้ยน จำเป็นต้องมีทางเดินแบบแชมเปี้ยน คือต้องรักษาสภาพความพร้อมของตัวเองให้เป็นหมายเลขหนึ่งต่อเนื่องยาวนาน
คงไม่มีแชมป์โลกคนไหนไม่ลงนวมซ้อมเลยในภารกิจป้องกันเข็มขัด ลิเวอร์พูลเองก็เช่นกัน
มิลเนอร์อาจยกขึ้นหิ้งไว้สักคนด้วยความที่อายุมากขึ้นอีกปีแล้ว ไม่ได้มีความคาดหวังในตัวท่านรองมากเท่าไหร่ แต่ตัวสำรองคนอื่นๆ ไม่แน่ฤดูกาล 2020/21 นี้อาจเป็นซีซั่นวัดใจที่สุด เป็นฤดูกาลที่มีดีอะไรต้องรีบเค้นออกมาให้ได้มากที่สุด
ทุกวิกฤติมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ ในขณะที่สายตาของเราจับจ้องไปที่นักเตะตัวจริงและสมาชิกใหม่อย่างตีอาโก้กับโชต้า บางทีนี่อาจจะเป็นฤดูกาลที่เราได้เห็นนักเตะชุดสองแข่งกันโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดในชีวิต กลายเป็นเรื่องคาดไม่ถึงที่งดงามสำหรับทีมก็ได้
บทความโดย :: ป้าพล็อต
อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี