#โอกาสเปิดกว้าง

ชัยชนะล่าสุดเหนือเชลซี ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลดช่องว่างจากท็อปโฟร์ลงเหลือเพียง 3 แต้ม ในช่วง 12 เกมสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สยบ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้เรียบวุธทั้ง 3 ครั้ง และเป็นครั้งแรกที่ ปีศาจแดง ชนะ สิงโตน้ำเงินคราม ทั้งเหย้า-เยือนในลีก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1987/88

แถมสกอร์ 4-0 ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และ 2-0 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ยังเป็นการทาบสถิติพิชิต เชลซี ไป-กลับ ของ ยูไนเต็ด แบบไม่เสียประตูเป็นครั้งแรก นับจากซีซั่น 1964/65 โน่นเลย

ปกติ เชลซี เป็นทีมแสบที่มักสร้างความลำบากให้ ผีแดง อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะหลังยุคที่ได้ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์ และมักดึงกุนซือยอดฝีมือเข้ามากุมบังเหียน

โซลชา ในมุมมองแฟนผีอาจเป็นโค้ชที่ฝีมือยังไม่ถึง และเร้ด อาร์มี่ ก็อยากจดจำเขาในฐานะตำนานซูเปอร์ซับตอนสมัยเป็นนักเตะมากกว่ามานั่งเปลืองตัว ล่อเสียงวิจารณ์ก่นด่าบนเก้าอี้ร้อนตัวนี้

แต่ อดีตเจ้าของฉายา “เพชฌฆาตหน้าทารก” ก็ยังมุ่งมั่นตั้งใจในจุดยืน และสร้างทีมปีศาจแดงตามอุดมการณ์ของตัวเอง

ปัญหาเจ็บของบรรดาแกนหลักเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลงานของ ยูไนเต็ด ป้อแป้กระท่อนกระแท่น ซึ่งบรรดากองเชียร์ต่างเข้าใจรับทราบ

ทว่าหลายๆ คนก็รู้สึกหมั่นไส้ โซลชา ที่เที่ยวป่าวประกาศมาตลอดซัมเมอร์ บนพื้นฐานของความมั่นใจตัวเองเกินไป และยืนยันขุมกำลังที่มีนั้นมันเพียงพอ

แล้วเป็นไง เรื่องจริงที่เกิดขึ้น ไม่ได้โลกสวยเหมือนที่มโนเอาไว้

แผนงานการซื้อตัวของ ยูไนเต็ด ตั้งแตก่อนเปิดฉากซีซั่นนี้ถือว่าตรงจุด เพราะทั้ง แดเนียล เจมส์, อารอน วาน-บิสซาก้า และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ต่างก้าวเข้ามาเป็นตัวหลักได้ทันที โดยเฉพาะรายของ แม็กไกวร์ ที่ได้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ไปเรียบร้อย

มาถึงกรอบชอปปิ้งเดือนมกราคมที่ผ่านมา ความต้องการ “กองกลาง” และ “กองหน้า” ได้รับการตอบโจทย์ด้วยสัญญาแพงของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และยืมตัวระยะสั้น โอเดี้ยน อิกาโล่

บนความคาดหวังมหาศาล แฟน์นันด์ส ทราบดีว่ากำลังโดนจับจ้อง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงชั่วโมงบินผ่านร้อนผ่านหนาวโชกโชน และสร้างประโยชน์ให้ทีมได้ทันที

บรูโน่ กับบทบาทเพลย์เมกเกอร์ ดูสมดุลย์ลงตัว มีประสิทภาพมากกว่าตอน โซลชา ยัดตำแหน่งสำคัญนี้ให้ เจสซี่ ลินการ์ด, อันเดรียส เปเรยร่า และ ฆวน มาต้า ที่ไม่ได้เรื่องเลยซักคน

บอลที่ออกจากเท้าของ แฟร์นันด์ส แม่นยำ เฉียบคม และเพื่อนๆ ก็เล่นกันง่าย แถมเขายังมีความยืดหยุ่น เล่นได้หลากหลายบทบาท

แล้วถ้า สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ ปอล ป็อกบา ฟิตเต็มพิกัดพร้อมคัมแบ็ก มันก็ยิ่งเพิ่มทางเลือกในแดนกลางให้ โซลชา ที่ใช้ เฟร็ด ลงเล่นดีมาต่อเนื่อง และมาตรฐานสูงขึ้นเรื่อย ส่วน เนมานย่า มาติช ก็ผลงานใช้ได้ ไม่ยอมทำตัวเป็นจุดอ่อน

การยื้อแย่งอันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีกเป็นภารกิจหลัก สำคัญเข้าขั้นคอขาดบาดตาย และหากส้มหล่นทีมอันดับ5 ที่จะได้สิทธิ์ลุยชปล. แทน แมนฯ ซิตี้ มันมีจริง ก็จะส่งผลให้การต่อสู้เข้มข้นมากขึ้นหลายเท่าตัว

ส่วน ยูโรปา ลีก ก็คงจริงจังกว่าในรอบแบ่งกลุ่ม เพราะมีวีซ่าตะลุยยูซีแอลรออยู่ที่เส้นชัย

ขณะที่ เอฟเอ คัพ ก็ต้องเต็มที่ เพราะเป็นอีกโอกาสที่จะได้สัมผัสโทรฟี่แชมป์

ประตูสู่ความสำเร็จยังเปิดกว้างต้อนรับ…ปีศาจแดง

ตราบใดที่ยังรักษาโอกาสให้ไขว่คว้า และไม่ทิ้งขว้างมันไป ด้วยผลงานย่ำแย่ น่าผิดหวัง ตามลูปเดิมๆ

* โรบิน *

ติดตามข่าวสารได้ที่ :: ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ

บทความก่อนหน้า :: “บรูโน่” ต้องมาแล้ว